"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ต้องพบกับความปราชัยแบบหมดสภาพหลังบุกพ่าย "ดาบคู่" เชฟฯ ยูไนเต็ด 0-3 โดยเกมนี้ เดวิด แม็คโกลดริก ระเบิดฟอร์มเก่งซัดคนเดียวสองตุง ช่วยต้นสังกัดคว้าสามแต้มพร้อมส่งขึ้นไปอยู่ที่ 6 ของตารางคะแนน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2563
เชฟฯ ยูไนเต็ด 3 - 0 เชลซี
สนาม : บรามอลล์ เลน
นาทีที่ 2 เชลซี ได้ทักทายจากลูกยิงไกลเกือบ 30 หลากลางกรอบเขตโทษของ รอสส์ บาร์คลี่ย์ แต่น้ำหนักเบาเกินไปส่งผลให้บอลค่อยๆ ไหลเข้ามือ ดีน เฮนเดอร์สัน รับไว้ได้สบาย
นาทีถัดมามีใบเหลืองแรกเกิดขึ้นเป็นของฝั่งเชฟยูเมื่อ จอร์จ บัลด็อค เข้าไปตัดฟาวล์ด้านหลังใส่ คริสเตียน พูลิซิช ทำให้ อังเดร มาร์ริเนอร์ ผู้ตัดสินเกมนี้ไม่ลังเลชักใบเหลืองให้ บัลด็อค ทันที
นาทีที่ 5 เชฟยู สวนกลับขึ้นมาบ้าง เดวิด แม็คโกลดริก ได้ขึ้นโหม่งแต่บอลไปติดบล็อค รีซ เจมส์ ออกหลังไปเป็นลูกเตะมุม
นาทีที่ 7 ทีมเยือนสร้างความหวาดเสียวอีกครั้งจากจังหวะเปิดบอลด้านข้างทางฝั่งขวาของ รีซ เจมส์ บอลโค้งเลยไปเสาไกลเข้าหัว พูลิซิช ที่พยายามพุ่งโหม่งแต่โดนแข้งดาบคู่ตามมากดดันทำให้คุมทิศทางไม่ดีบอลหลุดออกข้างเสาประตูไป
ผ่านมาถึงนาทีที่ 19 เชฟยู ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาน์ท ถูก ซานเดอร์ เบิร์ก ตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนส่งต่อไปให้ จอร์จ บัลด็อค ที่เติมขึ้นมากระชากไปด้านข้างฝั่งขวาแล้วเปิดโด่งไปเข้าทาง โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ ได้ตั้งป้อมยืนหวดโล่งๆ แบบไร้ตัวประกบบอลตกลงพื้นไปถูดส้นเท้า รอสส์ บาร์คลี่ย์ ทำท่าจะเปลี่ยนทางเข้าไปแต่ เกปา ยังผวาตัวปัดบอลด้วยมือเดียวออกมาได้ก่อนจะถูก เดวิด แม็คโกลดริก ดาวยิงเจ้าบ้านวิ่งตามเข้ามากดซ้ำดาบสองจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือซาก และนับเป็นการทำประตูแรกในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีของดาวยิงชาวไอร์แลนด์วัย 32 ปีผู้นี้อีกด้วย
นาทีที่ 33 เชฟยู ได้ประตูนำห่าง 2-0 เมื่อได้ลูกฟรีคิกเกือบครึ่งสนามบอลส่งต่อมาถึง เอ็นดา สตีเว่นส์ ทางริมเส้นฝั่งขวาแล้วทำชิ่งกับ เบน ออสบอร์น ส่งให้ สตีเว่นส์ อีกครั้งได้หลุดขึ้นไปเปิดบอลลอยโค้งไปที่เสาแรกและเป็น โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ ที่ใช้ความเร็ววิ่งโฉบขึ้นมาสะบัดโขกเต็มหัวบอลพุ่งแรงเบียดเสาเข้าไปทำเอา เกปา หมดปัญญาป้องกันได้แต่มองตามบอลเข้าไปกองอยู่ที่ก้นตาข่ายเท่านั้น
นาทีที่ 43 เชลซี ได้ลุ้นทวงประตูคืนเมื่อ รีซ เจมส์ ได้กดเต็มข้อระยะเกือบ 25 หลาทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษบอลพุ่งดุจจรวดทำท่าจะเสียบเสาไกลแต่ไม่ผ่านมือ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ล้มตัวปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด
ท้ายเกมยังคงเป็นทัพสิงโตน้ำเงินครามที่โหมบุกอย่างหนักแต่ก็ไม่ผ่านแนวรับดาบคู่จบครึ่งแรก เชฟยู เปิดบ้านนำเชลซี 2-0
มาลุ้นกันต่อครึ่งหลัง เชลซีมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยส่ง มาร์กอส อลอนโซ่ ลงมาแทน เมสัน เมาน์ท และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ลงมาแทน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ส่วนเจ้าถิ่นเชฟยู ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมเหมือนในครึ่งแรก
นาทีที่ 49 เชลซี ได้โอกาสลุ้นกับจังหวะขึ้นโขกของ มาร์กอส อลอนโซ่ แต่ทิศทางไม่ดีหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 60 เขลซี ได้ลูกฟรีคิกเกือบกลางกรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา รอสส์ บาร์คลี่ย์ รับหน้าที่ยิงแต่หวดไปติดกำแพงกระดอนออกไปไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 64 ยังคงเป็นทีมเยือนที่โหมบุกอย่างหนัก คริสเตียน พูลิซิช ได้โอกาสสับไกในกรอบเขตโทษเชฟยู แต่ยังไม่ผ่านบล็อคแผงหลังเจ้าถิ่นที่ช่วยกันป้องกันไว้ได้
นาทีที่ 66 ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เปลี่ยน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงมาแทน พูลิซิช และก็เกือบได้เฮจากลูกโยนยาวของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เลยมาถึง ชิรูด์ หน้ากรอบเขตโทษที่ตัดสินใจวอลเล่ย์ด้วยเท่าซ้ายแบบไม่จับแต่บอลไซต์ก้อยพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 72 เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กองหลังเชลซีเติมเกมขึ้นมากดเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษแต่ยังมี แจ็ค โอคอนเนลส์ กระโดดเช้าไปบล็อคส่งผลให้บอลเปลี่ยนทางออกหลังไป
ต่อเนื่องเป็นลูกเตะมุมบอลมาเข้าหัว แทมมี่ อับราฮัม ที่เบียดเอาชนะแผงหลังเจ้าบ้านและได้โขกเต็มๆ แต่คุมทิศทางไม่ดีบอลหลุดเข้าข้างตาข่ายอีกครั้ง
นาทีที่ 77 เชฟยู ทำขาดเป็น 3-0 จากจังหวะสวนกลับไว เดวิด แม็คโกลดริก ตัดบอลได้กลางสนามก่อนกระชากลากจี้เข้าหากรอบเขตโทษแล้วส่งต่อไปทางฝั่งขวาให้ ลีส มุสเซ็ต ได้เปิดบอลหักข้อยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษโดยมี อันโตนิโอ รือดิเกอร์ กองหลังทีมเยือนที่พยายามล้มตัวเคลียร์บอลแต่กลับกลายเป็นส่งให้ เดวิด แม็คโกลดริก ที่วิ่งตามเข้ามากดเต็มข้อแบบจ่อๆ เข้าไปทำเอาตาข่ายสั่นสะเทือน
นาทีที่ 79 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เกือบตีไข่แตกให้ทีมเยือนเมื่อได้ขึ้นสะบัดโขกเต็มหัวบริเวณจุดโทษแต่บอลดันไปตรงตัว ดีน เฮนเดอร์สัน รับเข้าซองไว้ได้ไม่พลาด
นาทีที่ 82 เชฟยู น่าจะได้ประตูที่ 4 ลีส มุสเซ็ต หลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกบอลผ่านมือ เกปา แต่บอลค่อยๆ ไหลหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย
เวลาที่เหลือเชลซีพยายามโหมบุกหวังทวงประตูคืนแต่ไม่เป็นผลจบเกม เชฟยู โชว์ฟอร์มเก่งเปิดบ้านอัดเชลซี 3-0 คว้าสามแต้มพร้อมขยับขึ้นไปอยู่ที่ 6 ของตารางคะแนน ขณะที่เชลซี รั้งที่ 3 ตามเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : ดีน เฮนเดอร์สัน - คริส บาแชม (ฟิล จากีลก้า น.68), จอห์น อีแกน, แจ็ค โอคอนเนลล์ - จอร์จ บัลด็อค, ซานเดอร์ เบิร์ก (จอห์น ลันด์สตรัม น.63), โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, เบน ออสบอร์น, เอ็นดา สตีเว่นส์ - โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ (ลีส มุสเซ็ต น.63), เดวิด แม็คโกลดริก
ผู้จัดการทีม : คริส ไวล์เดอร์
เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น (อันโตนิโอ รือดิเกอร์ น.46), เคิร์ก ซูม่า, รีซ เจมส์ (คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย น.75) - รอสส์ บาร์คลี่ย์ (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.78), จอร์จินโญ่, เมสัน เมาน์ท (มาร์กอส อลอนโซ่ น.46) - วิลเลี่ยน, แทมมี่ อับราฮัม, คริสเตียน พูลิซิช (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.66)
ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์
Getty Images
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]
July 12, 2020 at 01:30AM
https://ift.tt/2OhUAjq
เชลซีพ่ายหมดสภาพ! "แม็คโกลดริก" โชว์แจ่มซัดเบิ้ลพาเชฟยูแซงขึ้นที่6 - สยามกีฬา
https://ift.tt/2BQJXBh
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เชลซีพ่ายหมดสภาพ! "แม็คโกลดริก" โชว์แจ่มซัดเบิ้ลพาเชฟยูแซงขึ้นที่6 - สยามกีฬา"
Post a Comment