Search

เคล็ดลับของคล็อปป์ - สยามกีฬา

blogpolitikgue.blogspot.com
เคล็ดลับของคล็อปป์

"ซีซั่นที่แล้วพวกเราแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถสู้ได้จนถึงวันสุดท้าย ถ้าคุณมองดูรอยย่ำของผมที่ผ่านมา คุณก็จะพบว่าผมเองก็มักได้ลุ้นจนถึงเกมสุดท้าย มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ มันคล้ายกลายเป็นคาแรกเตอร์ของผมไปแล้ว ผมจะทำเต็มที่เสมอเท่าที่เป็นไปได้"

    เป็นประโยคที่เจอร์เก้น คล็อปป์เคยพูดเอาไว้ในช่วงกำลังเข้าสู่หน้าหนาว ตอนนั้นลิเวอร์พูลนำจ่าฝูงทิ้งห่างแมนฯซิตี้ 8 แต้มจาก 12 เกมที่ผ่านไป   

    ใช่ครับ ต่อพรีเมียร์ลีกที่กำลังกลับมาเตะอีกไม่กี่วันข้างหน้า หนนี้เขาเองก็คงไม่ต้องไปต่อสู้จนถึงเกมสุดท้าย ลิเวอร์พูลขออีกชนะอีกสองนัดเท่านั้นก็สถาปนาขึ้นเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกรอบ30 ปี    

    เวลาผ่านไป ความหนาวถูกแทนที่ด้วยไออุ่นของพระอาทิตย์ ล่าสุดโค้ชสายเลือดดอยทช์ได้เปิดใจไว้กับสกาย สปอร์ตสว่าเขาคิดอย่างไรกับการที่จะต้องชูถ้วยโดยไร้เงาสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแฟนบอล

เคล็ดลับของคล็อปป์

    

    "เมื่อฟุตบอลหยุดไป ตอนนี้ใกล้จะมาแข่งได้แล้ว มันคงไม่ใช่เรื่องหรอกว่าเราจะได้แชมป์ที่ไหนหรือมีแฟนบอลหรือเปล่าแต่ทำไมเราต้องไปพยายามเปลี่ยนในสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ด้วย ผมแค่อยากบอกว่าผมรอได้ ถ้าหากฤดูกาลหน้าผ่านไป12หรือ13เกม เราค่อยจัดพิธีฉลองร่วมกับกองเชียร์ในกรณีที่ได้รับอนุญาตให้ทำแล้ว ผมไม่แคร์หรอกถ้าจะต้องรอ ใครกันจะหยุดเราได้"
    

    นอกจากได้ชูโทรฟี่แล้วลิเวอร์พูลก็ยังมีโอกาสทำลายสถิติคะแนนสูงสุดที่ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเคยสร้างเอาไว้เมื่อซีซั่น 2017/18 ด้วยการกวาดไป 100 แต้ม     

    "ปัญหาในตอนนี้ก็คือพวกเรายังไม่ได้เป็นแชมป์ ผมไม่ได้ต้องการมาสื่อสารว่าเรากังวลกับสิ่งนี้หากคุณก็รู้ว่าผมต้องการชนะทุกเกมที่ลงสนาม เราไม่ต้องการชนะแค่สองเกมแต่เราต้องการชนะทุกเกม"
    

    แน่นอนมันต้องมีเบื้องหลังที่เป็นเคล็ดลับสู่ทุกความสำเร็จ... 

    1.เปลี่ยนคาแรกเตอร์

เคล็ดลับของคล็อปป์

    

    มีคำกล่าวของคนภายในสโมสรตราหงส์ "ไม่มีใครที่จะเข้ามาแล้วทำให้เกิดแรงบวกกับสโมสรมากเท่านี้ คนสุดท้ายก็บิลล์ แชงค์ลี่ย์"
    

    คล็อปป์เคยนิยามจุดเด่นที่สุดของทีมชุดนี้เอาไว้สั้นๆ"mentality monsters"ซึ่งส่วนตัวของเขาเองก็มองว่าเป็นจุดที่สำคัญที่สุดของผู้ที่มีดีเอ็นเอแห่งชัยชนะ    

    "ความสำคัญของจิตใจข้างในต่อการเล่นฟุตบอลงั้นหรือ? มันคือทั้งหมดก็ว่าได้เพราะต่อให้คุณมีเทคนิคดีแค่ไหน มีความสามารถยอดเยี่ยมเพียงไรแต่คุณก็จะงัดมันออกมาใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพหรอกถ้าปราศจากความเชื่อที่อยู่ข้างในตัวคุณเอง"
    

    "ฟุตบอลก็ไม่ได้ต่างจากชีวิตปกติของมนุษย์ ก้าวแรกที่จะไปประสบความสำเร็จก็ต้องมีความเชื่อมั่นว่าคุณทำได้ซะก่อน มีคำถามก็ต้องมีคำตอบ คุณจะอยากตั้งคำถามให้ตัวเองสักกี่ข้อ อันไหนถูกหรืออันไหนผิดแต่ท้ายที่สุดหากคุณมีความกลัวนำพามาก่อน มันก็ยากที่จะทำสิ่งนั้นได้"
    

    ตลอดสามทศวรรษมานี้ลิเวอร์พูลมีขวบหน้าปฎิทินที่เรียกว่าเฉียดจะได้แชมป์ลีกมาทั้งยุคราฟา เบนิเตซหรือเบรนแดน ร็อดเจอร์สโดยแต่ละชุดก็มีคาแรกเตอร์โดดเด่นต่างกัน กระนั้นก็ไม่มีทีมชุดไหนที่มีคุณสมบัติที่ฉายออกมาจากข้างในแข็งแกร่งเท่านี้    

    ฤดูกาลนี้มีหลุดเสมอกับแพ้ไปอย่างละเกมโดยนับรวมย้อนไปแล้วพวกเขาก็เสียท่าให้คู่แข่งในเกมลีกรวมแค่2 ครั้งเท่านั้นจากทั้งหมด 68 เกม        

    เคยมีคนพูดว่าสิ่งที่แต่ละทีมแสดงออกมาในสนามก็เป็นการถ่ายทอดจากบุคลิกของโค้ช นั่นแหละลิเวอร์พูลทีมนี้ก็เหมือนหล่อหลอมออกจากคาแรกเตอร์ของคล็อปป์    

    2.เปลี่ยนแนวคิด
    

เคล็ดลับของคล็อปป์

    มีสถิติหนึ่งที่น่าทึ่งก็คือซีซั่นนี้ลิเวอร์พูลตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่ต่อสู้เฉลี่ยแค่ 8.7 นาทีเท่านั้นซึ่งก็หมายถึงว่าพวกเขาสามารถจัดการคู่แข่งได้แทบอยู่หมัดในทุกแมตช์ ขณะเดียวกัน 7 ครั้งที่ไม่ว่าโดนใครทะลวงตาข่ายนำไปก่อน ก็มีถึง 6 ครั้งเช่นกันที่สามารถไล่ตามตีคืนได้ คิดแล้วก็ 86%     

    มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราได้เห็นขุนพลจากแอนฟิลด์มาพังประตูในนาทีท้ายๆของเกมจนมีศัพท์แสงใหม่ขึ้นมา"Jurgen Time"ซึ่งก็เป็นการเปรียเปรยกับ"Fergie Time"ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันสมัยคุมแมนฯยูไนเต็ด    

    "ความฟิตเป็นเรื่องสำคัญแน่แต่คุณคงไม่สามารถไปสั่งพวกเขาได้หรอกว่าวิ่งเข้าไปจนถึงวินาทีสุดท้ายแล้วคาดหวังว่าเราจะทำประตูได้ทุกครั้งที่ต้องตามหลัง"คล็อปป์อธิบาย"แต่มันสำคัญกว่าที่คุณต้องมีความมั่นใจว่าทุกการขึ้นเกมหรือทุกโอกาสที่มีจะกลายเป็นประตูได้"
    

    "ความคิดของนักเตะต่างกันไปเพราะแต่ละคนมาจากพื้นเพที่ต่างกันทว่าเมื่อทุกคนมารวมกันในสถานที่เดียวกันแล้ว มันก็ต้องหาวิธีการที่จะให้ทุกความคิดพุ่งไปยังจุดเดียวกัน นั่นเองพอเราสามารถทำได้หนึ่งครั้ง ทุกคนก็จะเชื่อมั่นว่าครั้งที่สองหรือครั้งที่สามก็จะทำได้เช่นกัน"
    

    "ทุกอย่างเริ่มจากการซ้อม การพูดคุยและก็ต้องหวังว่ามันจะมีโชคเกื้อหนุนด้วย มันต้องอาศัยทุกอย่างประกอบกันแต่จุดแรกเลยคือความคิดของทุกคนต้องคลิ๊กเข้าหากันก่อน"
    

    มีการแจงรายละเอียดการซ้อมบางเซสชั่นโดยคล็อปป์กับทีมสตาฟฟ์เลือกจัดทีมแบบ 11 คนต่อ 9 คนมาเจอกันโดยให้ทีม 9 คนเป็นทีมรุกโดยบังคับด้วยว่าเป็นฝ่ายที่สกอร์ตามหลังอยู่ ต้องยิงสองลูกเพื่อชนะ    

    3.เปลี่ยนบรรยากาศ
    

เคล็ดลับของคล็อปป์

    "ตอนที่ผมมาทำงานให้ลิเวอร์พูลใหม่ๆ ผมก็ประหลาดใจว่าทำไมแฟนบอลถึงออกจากสนามเร็ว ผมไม่เคยเข้าใจเลยเแม้ผมอาจจินตนาการได้ถึงเรื่องการจราจรหลังเกมจบ"เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้
    

    บางคนคงจะไม่ลืมเกมที่พวกเขาแพ้ให้คริสตัล พาเลซคารัง1-2 เมื่อฤดูกาล2015/16 โดยหลังเกมคล็อปป์เองได้พูดตรงไปตรงมาถึงบรรดาเดอะ ค็อปภายหลังพบคนลุกจากเก้าอี้ก่อนเกมจบจำนวนมาก"ผมรู้สึกเดียวดายมาก"
    

    ก็ต้องถามถึงอีกจุดเด่นของลิเวอร์พูลแต่ไหนแต่ไหร??    

    ใช่-พลังของกองเชียร์ในแอนฟิลด์หรือที่เรียกกันติดปากว่า"ผู้เล่นคนที่12"    

    คล็อปป์ซึ่งเคยชินอยู่แล้วกับบรรยากาศสมัยอยู่ดอร์ทมุนด์ก็ปรารถนาที่จะทำให้ได้ที่แอนฟิลด์ เขาเชื่อว่าหากผลงานในบ้านดีทำให้แฟนบอลมีความเชื่อมั่นก็จะเป็นรากฐานไปสู่ความสำเร็จ    

    หนสุดท้ายที่พวกเขาประสบหายนะในเกมพรีเมียร์ลีกคารังสีแดงของตัวเองก็ต้องหมุนเข็มนาฬิกากลับไปไกลถึงเดือนเมษายนปี 2017 หรือ 55 เกมผ่านมาแล้ว    

    "ผมเองเคยออกมาจากสนามก่อนตอนที่เข้าไปดูทีมคู่แข่งลงเตะแต่กับกองเชียร์? 

    ผมเองก็ไม่เข้าใจเลยดังนั้นทางเดียวที่จะทำให้พวกเขาอยู่จนจบเกมก็คือสร้างบรรยากาศที่ให้ดูฮึกเหิม มันเหมือนความพยายามที่ทำแล้วหากล้มเหลวก็ต้องพยายามไปอีกจนในที่สุดพอทำได้ก็จะกลายเป็นความคุ้นเคยไปเอง"
    

    "มันมีผู้เล่นบางคนอยู่กับทีมมา4ปีหรือมากกว่านั้น บางคนก็อาจจะน้อยกว่านั้นแต่ทุกคนต้องสะท้านเหมือนกันว่าพวกเราสามารถได้พลังงานอันมากมายจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะแฟนบอล"
    
    

    4.เปลี่ยนอดีตให้เป็นปัจจุบัน
    

เคล็ดลับของคล็อปป์

    มีอยู่วันคล็อปป์ได้พาลูกทีมทุกคนไปห้องพิพิธภัณฑ์ซึ่งบรรจุถ้วยต่างๆที่ลิเวอร์พูลเคยคว้ามาได้ จุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นเตือนให้ทุกคนเข้าใจถึงประวัติศาสตร์ของสโมสรรวมถึงเกียรติที่ได้สวมเสื้อสีแดงมีโลโก้นกอยู่อกข้างซ้าย
    

    "ผมมีความรู้สึกว่าใครก็ตามที่มาอยู่ลิเวอร์พูลก็จะเหมือนมีกำแพงสูงที่ขวางพวกเขาไว้เพราะนี่คือสโมสรที่ประสบความสำเร็จล้นหลามในอดีตดังนั้นมันจึงมีความกดดันกับทุกคนที่เข้ามา มันเลยต้องข้ามมันให้ได้ 

    ผมคิดว่าประโยคแรกที่จะสื่อสารให้นักเตะเข้าใจสำคัญที่สุด ทุกวันนี้ถ้ามีการประชุมก่อนหน้าเกมซึ่งปกติสมัยก่อนอาจใช้เวลาเป็นชั่วโมงแต่ตอนนี้มันแค่10ถึง15นาทีเท่านั้นเนื่องจากส่วนใหญ่ได้มีการพูดไปหมดแล้ว"
    

    "ความจริงแล้วผมเองก็จำไม่ได้หรอกว่าเคยพูดอะไรไปกับนักเตะบ้างยกเว้นว่าจะมีผู้เล่นคนไหนให้สัมภาษณ์กับสื่อซึ่งนั่นแหละก็เตือนความจำผม"
    

    ความเป็นคล็อปป์ คาแรกเตอต์ของคล็อปป์และทัศนคติของคล็อปป์ที่ปลูกฝังให้ขุนพลหงส์แดงนับแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานค่อยๆซึมซับเข้าสู่ผู้เล่น ไม่แค่นั้นยังได้ไหลลงสู่ความคิดของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับลิเวอร์พูลอีกด้วย    

    เรื่องนี้กองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยม-ดิว็อค โอริกีเป็นพยานชั้นดี เขาเคยบอกเอาไว้หลังจากคืนที่พลิกแซงทุบดอร์ทมุนด์ 4-3(ตามหลัง1-3)ในยูโรปา ลีกปี2016ว่า

    "เจ้านายได้ย้ำกับพวกเราตอนพักครึ่งว่าถ้าพวกเราสามารถผ่านเข้ารอบได้ก็จะกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถนำไปเล่าถึงลูกหลานได้อีกนาน"
    

    ทุกวันนี้คล็อปป์จึงแทบไม่ต้องกระตุ้นนักเตะเป็นพิเศษเพราะเขาได้พูดประโยคแรกที่ตัวเขามองว่าสำคัญที่สุดไปก่อนแล้ว"พวกเราทุกคนสามารถเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ได้ มันน่าชื่นชมอยู่หรอกกับอดีตอันสวยงามแต่มันจะยอดเยี่ยมกว่านั้นหากเราเปลี่ยนให้เป็นปัจจุบันได้"
    

                                            "ไก่ป่า"
 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
เพิ่มเพื่อน



June 15, 2020 at 06:35AM
https://ift.tt/30GAo25

เคล็ดลับของคล็อปป์ - สยามกีฬา

https://ift.tt/2BQJXBh


Bagikan Berita Ini

0 Response to "เคล็ดลับของคล็อปป์ - สยามกีฬา"

Post a Comment

Powered by Blogger.