วันศุกร์ ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
การประกาศ “ตัดจบ” วงการฟุตบอลอังกฤษในลีกระดับดิวิชั่น 3 หรือ ลีกวัน กับ ดิวิชั่น 4หรือ ลีกทู เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ
เมื่อลองมองย้อนกลับมาที่บ้านเรา ก็เป็นโมเดลที่ไม่ต่างกัน เพราะฟุตบอลที่ต่ำกว่าลีกสูงสุด จะมีมูลค่าได้ก็ไม่ควรเกินลีกระดับสองรองลงมา ที่เหลือนั้นแล้วแต่ฟ้า
แล้วแต่ชะตากำหนด
ไม่มีการถ่ายทอดสด และหนักยิ่งกว่า คือ ไม่มีแฟนบอลเข้าไปชมในสนาม ทำให้เงินทองไม่พอ การประกาศตัดจบจึงเป็นไปตามคาด และค่อนข้าง “หดหู่”
ขอกล่าวถึง “เดอะ ทร็อตเตอร์” โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส อดีตทีมขวัญใจมหาชนที่ถูกเรียกว่า “บอลเงินเดือน” ต้องตกชั้นไปลีกทู ถือเป็นจุดต่ำสุดในระดับอาชีพ
เวรซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น ทั้งที่เมื่อปี 2012 พวกเขายังอยู่ในพรีเมียร์ลีกอยู่เลย!!!!
ทีม “อาวุโสโอเค” แห่งวงการบอลอังกฤษ
พวกเขาตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก หลังจากมีคะแนนตามหลัง ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น แต่มันไม่เพียงพอต่อการอยู่รอด หลังจากอุตส่าห์อยู่ยั้งยืนยงมานานถึง 11 ปีเต็มบนลีกสูงสุด และได้ขึ้นขั้นได้ชื่อว่า เป็นทีมที่แพ้ยากที่สุดทีมหนึ่งเลยทีเดียว
ด้วยเอกลักษณ์สไตล์การทำทีมที่น่าประหลาดใจ ด้วยการเติมนักบอลที่อายุมากๆ เน้นเรื่องประสบการณ์ล้วนๆ มาช่วยทีม กลับออกดอกออกผลได้อย่างน่าอัศจรรย์
บ้านเราหลายคนเรียก “ทีมจากบ้านบางแค”
โบลตัน กลับมาผงาดอยู่ในพรีเมียร์ลีกและถูกจับตามองอย่างมาก เมื่อพวกเขาสามารถดึงนักเตะรุ่นเก๋าระดับสตาร์ดังมาร่วมทัพอย่างมากมาย ภายใต้การคุมทีมของ แซม อัลลาไดซ์ อาทิ เจย์เจย์ โอโคชา,เฟร์นานโด เอียร์โร่, อีบัน คัมโป้, ยูริจอร์เกฟฟ์, ฆาเร็ต บอร์เก็ตติ, ฮิเดโตชินากาตะ, นิโกลาส์ อเนลก้า, ไอเดอร์กุ๊ดยอห์นเซ่น, แกรี่ สปีด, สเตลิออสยานนาโคปูลอส เป็นต้น
โบลตัน ก่อตั้งทีมตั้งแต่ปี ค.ศ.1874 หรือ พ.ศ.2417 หรือเมื่อ 145 ปีมาแล้ว จากการร่วมมือกันของ โจเซฟ ฟาร์เรลล์ ไรท์บาทหลวงของโบสถ์โบลตัน เซต์.บีส์ธีโอโลจิคอล คอลเลจ กับ โธมัส อ็อกเด้นคุณครูที่สอนอยู่ใกล้กับโบสถ์โบลตัน ก่อนจะใช้ชื่อ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ในปี 1877
ครองแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ถึง 4 สมัยในปี 1923, 1926, 1929, 1958, แชมป์แชร์ริตี้ ชิลด์ ปี 1958, แชมป์ฟุตบอลลีกโทรฟี่ ปี 1989 และรองแชมป์ลีกคัพ2 สมัย พร้อมกันนี้ยังเป็นแชมป์ดิวิชั่น 2 อีก 3 สมัย, เพลย์ออฟดิวิชั่น 2 อีก 2 สมัย, แชมป์ดิวิชั่น 3 อีก 1 สมัย
ภัยร้ายของยาพิษที่ชื่อ “แอนเดอร์สัน”
การตกชั้นเมื่อปี 2012 ทำให้ โบลตันออกทะเลหาฝั่งไม่เจอ ตกต่ำลงเรื่อยๆ ซึ่งทุกคนมุ่งเป้าไปที่คนคนหนึ่ง ที่นับตั้งแต่เข้ามาทำงานทีมตกต่ำลงเรื่อยๆ นั่นคือ เคนแอนเดอร์สัน ในปี 2005
เคน แอนเดอร์สัน ถูกสั่งห้ามไม่ให้ทำธุรกิจ เนื่องจากบริษัทของเขาถึง 8 แห่งกำลังล้มละลาย แต่เขาก็ได้มาบริหารงานที่ โบลตัน และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” ต้องตกชั้นในปี 2012
แอนเดอร์สัน ไม่ได้นำเงินเข้าสู่สโมสรไม่เหมือนกับที่ เอ็ดดี้ เดวี่ส์ อดีตเจ้าของทีมเคยทำมาตลอด ด้วยการดึงนักฟุตบอลที่มีคุณภาพ และศักยภาพเข้ามาเสริมทีม โดยเฉพาะดึงนักเตะเก๋าๆ ระดับโลกมาร่วมทีมมากมาย โดยที่ เดวี่ส์ เคยให้ทีมยืมเงินถึง 170 ล้านปอนด์
ถึงแม้ว่า แอนเดอร์สัน จะไม่มีเงินเดือนอย่างเป็นทางการ แต่บันทึกทางการเงินแสดงให้เห็นชัดเจนว่า เขารับค่าที่ปรึกษาของทีมมากถึง 500,000 ปอนด์ หรือกว่า 20 ล้านบาท ก่อนที่ทีมจะตกต่ำแบบสุดๆ จนแทบล้มละลาย เพราะประสบปัญหาหนี้สะสม และตามด้วยการตกชั้นสู่ลีก วัน หรือระดับดิวิชั่น 3 เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา หรือ 2018-19
แอนเดอร์สัน ทำทีมจนมุมเมื่อไม่มีเงินจ่ายพนักงาน และกำลังให้คนกว่า 150 คน ต้องตกงาน เนื่องจากทีมติดหนี้ และมีเส้นตายอีก 14 วัน หากไม่มีเงินมาใช้หนี้จะต้องถูกขับออกจากฟุตบอลลีก เหมือนกับกรณีของ บิวรี่ เอฟซี
เจ็บปวดทุกพื้นที่-ร้อนถึงสภาท้องถิ่น
ฟุตบอลเป็นลมหายใจของคนอังกฤษ ผมขอใช้คำนี้เลย ตอนนี้พวกเขาต้องการลมหายใจกลับมาหลังจากแทบหยุดหายใจเพราะไวรัส
เช่นเดียวกับชาวโบลตัน
เดวิด เคราส์บี้ สมาชิกรัฐสภาของโบลตัน นอร์ท อีสต์ ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด นี่คือจุดที่น่าสนใจว่า อะไรเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลอังกฤษ กันแน่
“มีบางอย่างผิดปกติในฟุตบอลอังกฤษ” เคราส์บี้ กล่าวไว้เมื่อต้นซีซั่น “สโมสรเหล่านี้มีประวัติศาสตร์มากมาย และมีความสัมพันธ์อันดีในท้องถิ่น แต่กลายเป็นว่า หลายทีมกำลังดิ้นรนอย่างหนักต่อการสุ่มเสี่ยงต่อการล้มละลาย แต่ในเวลาเดียวกันกับที่พรีเมียร์ลีกกำลังเฟื่องฟู ทำให้เราต้องร่วมกันทำให้ถูกต้องโดยเฉพาะทำกับทีมท้องถิ่น ที่สำคัญไม่ใช่ให้ใครบางคนที่หยิบมันขึ้นมาเพื่อทำกำไร และหาผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว แน่นอนที่สุดเราต้องมีความตั้งใจจริงๆ ที่จะปกป้องสถาบันฟุตบอลนี้ไม่อนุญาตให้ล้มเหลวและหายไปให้จงได้”
ก่อนหน้านี้ บิวรี่ เอฟซี เพื่อนร่วมลีก วัน ได้ถูก สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ขับพ้นจากระบบฟุตบอลลีก เนื่องจากมีปัญหาเรื่องหนี้สิน และหาคนมาเทคโอเวอร์ไม่ได้ โดยพวกเขาไม่ได้ลงสนามเลยนับตั้งแต่เปิดซีซั่นมา 4 เกม
รอดตายแต่สุดท้ายก็ต้องไปนอนอยู่ในไอซียู
ที่สุดแล้ว โบลตัน พ้นปากเหวนรกเมื่อ Football Ventures (Whites) Limitedได้เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร ทำให้พวกเขาไม่ถูกขับพ้นจากลีกฟุตบอลอังกฤษ
ซีซั่นนี้ โบลตัน วันเดอร์เรอร์สออกสตาร์ทด้วยการถูกสั่งให้ติดลบ 12 คะแนนเนื่องจากปัญหาการชำระหนี้ ไม่มีเงินแม้กระทั่งซื้อน้ำมาให้นักเตะ และที่น่าตกใจที่สุดก็คือ มีนักเตะจากชุดใหญ่เหลืออยู่เพียงแค่ 5 คนเท่านั้น
ตกลงนี่เตะบอลสนามใหญ่หรือว่าไปเล่นฟุตซอล!!!
ในซีซั่นนี้เกมกับ โคเวนทรี ซิตี้ ปรากฏว่า โบลตัน ส่งนักเตะลงสนามด้วยอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยวัยเพียง 19 ปี และเกมก่อนการเทคโอเวอร์จบลง โบลตัน ก็แพ้ ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส 0-5 ฟิล พาร์กินสัน ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ทำให้ จิมมี่ ฟิลิปส์ ต้องคุมทัพชั่วคราว
Football Ventures (Whites) Limited เข้ามาเทคโอเวอร์ ซึ่ง พอล แอปเปิลตัน ผู้ดูแลกิจการของโบลตัน กล่าวว่า นี่เป็นการควบรวมกิจการที่ซับซ้อนที่สุด แต่ผมยินดีที่จะประกาศให้ทราบว่าในที่สุดเราก็บรรลุข้อตกลงที่น่าพึงพอใจในการขายกิจการให้ Football Ventures เป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความไม่พร้อมตั้งแต่ต้น โบลตัน ชนะได้แค่ 5 จาก 34 เกมในบอลลีก และเมื่อตัดจบ พวกเขาก็ต้องตกชั้น
พวกเขาจบอันดับที่ 23 โดยทีมที่จบอันดับที่ 24 อันดับสุดท้ายก็ไม่ใช่ใครอื่น บิวรี่ ที่ล้มละลายนั่นเอง
เป็นความจริงอันเจ็บปวดของโลกฟุตบอลโดยแท้
บี แหลมสิงห์
June 12, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/3dZc3sc
'โบลตัน'ตกชั้น!สู่ดิวิชั่น 4 กับความจริงอันเจ็บปวดของโลกฟุตบอล - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://ift.tt/2BQJXBh
Bagikan Berita Ini
0 Response to "'โบลตัน'ตกชั้น!สู่ดิวิชั่น 4 กับความจริงอันเจ็บปวดของโลกฟุตบอล - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"
Post a Comment